สมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม Thai Muslim Trade Association (TMTA)
เมื่อวันพุธที่ 26 มิถุนายน 2567
นายดาวุทธ นาวีวงษ์พนิต รองนายกสมาคม และ นางสาว มัสริน มาลินี กรรมการฝ่ายคลัสเตอร์การท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สถาบัน FKII Thailand
อลงกรณ์ พลบุตร ประธานมูลนิธิเวิล์ดวิว ไครเมทและอดีตประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม ในฐานะผู้ก่อตั้ง FKII Thailand (เอฟเคไอไอ. ไทยแลนด์) เผย FKII Thailand มาจากคำว่า Field for Knowledge Integrating and Innovation : FKII เกิดขึ้นเพื่อต้องการยกระดับรายได้ของเกษตรกรและผู้ประกอบการ เพิ่ม GDP ประเทศ
โดยสถาบัน เอฟเคไอไอ. องค์กรเครือข่ายนวัตกรรม พร้อมจับมือกับหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาเอสเอ็มอี. สมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม องค์กรเอกชน องค์กรเกษตรกร ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) สถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐพัฒนาอาหารและเกษตรมูลค่าสูง เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรและผู้ประกอบการ ด้วยขีดความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพใหม่ของประเทศ
โดยในเฟสแรก เอฟเคไอไอ.จะโฟกัสกิจกรรมส่งเสริมต่อยอดด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร อาหาร อีคอมเมิร์ซ ไครเมทเทค เอไอและดิจิตอล เทคโนโลยี ภายใต้ 12 อุตสาหกรรมแห่งอนาคตและแนวทางเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เศรษฐกิจคาร์บอน (Carbon Economy) เศรษฐกิจนวัตกรรม (Innovation Economy) และ เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) เพื่อตอบโจทย์อนาคต ทั้งโอกาสและภัยคุกคาม เช่น ภาวะโลกรวนโลกร้อนทะเลเดือด ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร การเพิ่มของประชากรและสังคมสูงวัย ประเด็น AI-เทคโนโลยี ดิสรัปชั่น สงครามและความขัดแย้งในภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์
“ผมเชื่อว่า โอกาสมีอยู่ในทุกวิกฤติ และหนึ่งในโอกาสของประเทศไทย คือภาคเกษตรและอาหาร เราต้องกำหนดเกมและนำประเทศเข้าสู่สนามแข่งที่เราเก่งมีศักยภาพ เพื่อเป้าหมาย มหาอำนาจทางอาหาร ติดท็อปเทนภายในปี 2030, สร้างอาหารปลอดภัย (Food Sefety), เกษตรกรรมยั่งยืน เหมือนเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่ ‘เกษตรกรเป็นคนรวย’, รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม, ลดปัญหาภาวะโลกร้อน โดย FKII จะเป็นหนึ่งคานงัด อัพเกรดประเทศไทยสู่มหาอำนาจอาหารโลก”อลงกรณ์ กล่าว
แผน 1 ปีแรก วางเป้าดำเนินงานสิ่งใดบ้าง?
นายอลงกรณ์ ยังเผยถึงการทำงานใน 1 ปีแรก ว่า FKII จะต่อยอดเชื่อมโยง-รวมเครือข่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาคีภาคส่วน เพื่อสร้างองค์กรที่มีพลัง ในการสร้างจุดเปลี่ยนของประเทศไทย และหวังว่า ด้วยพลังของทุกฝ่าย จะเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้ประเทศไทย ก้าวใกล้การเป็น ‘มหาอำนาจอาหารของโลก’
“ตอนนี้เราอยู่อันดับ 12 เราต้องการขึ้นสู่อันดับ 10 ก่อน เป้าคือขึ้นอันดับ 10 ในปี 2030 ซึ่งนวัตกรรมเท่านั้น ที่จะสามารถขับเคลื่อนตรงนี้ไปสู่การก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของประเทศ และนั่นหมายความว่า ความกินดีอยู่ดีของประชาชน และธุรกิจ ที่ถูกดิสรัปฯ ก็สามารถที่จะฟื้นตัวกลับมา รวมทั้งการสร้างกระแสเชื่อมโยงกับต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ เครือข่าย Innovation ของสหประชาชาติ หรือ FAO (โครงการอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ) รวมทั้งมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ในแต่ละทวีป ก็เป็นเป้าหมาย รวมทั้งการเชื่อมโยงให้เกิดการร่วมลงทุน การจับคู่ทางธุรกิจ นี่คือเป้าหมายแรกของเราในปีนี้”
เวทีนี้ ยังทำให้เราเห็นอนาคตของการทำงานร่วมกันที่เป็นไปอย่างเข้มข้น ทันโลกที่ต้องการแก้ปัญหาโลกเดือด กับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีองค์ปาถก หลายท่าน อาทิ จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (วิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธาน ส.อ.ท.) หอการค้าแห่งประเทศไทย (พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานฯ หอ) และอีกหลายท่าน ขึ้นแลกเปลี่ยนมุมมอง เชื่อมโยงการทำงานของ FKII Thailand โดยส่วนใหญ่ เล็งเห็น ภาคเกษตร-อุตสาหกรรม ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ต้องทำระดับลงลึก เพื่อให้ตลอดห่วงโซ่การผลิต ถึงการส่งออกไปทั่วโลก เป็นเรื่องที่ปลอดภัย ยั่งยืน ท่ามกลางสังคมโลกที่กำลังเดินหน้าเรื่องคาร์บอนฟุ๊ตปริ้น และประเทศไทยก็ถึงเวลาจริงจัง ไม่ควรปล่อยให้เกษตรกรไทยทำอาชีพแบบ ‘ต้องจนลงทุกวันโดยไม่รู้ตัว’ อีกต่อไป
FKII Thailand ความร่วมมือ ร่วมค้า ร่วมทุน
ด้าน ชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานสมาคมสถาบันทิวา ตอกย้ำการทำงานของสถาบัน FKII Thailand ว่า สืบเนื่องจากสถาบันฯ เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่ส่งเสริมและเผยแพร่องค์ความรู้ นวัตกรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งของประเทศ ซึ่งในอนาคตจะได้เห็น ‘ความร่วมมือ ร่วมค้า ร่วมทุน’ (Merger Acquisition & Partnership) ของคนภาคเอกชน ภาครัฐ และอีกหลายภาคส่วนต่อเนื่อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนสิ่งดีๆ นี้ร่วมกัน
สำหรับการเปิดตัวสถาบัน FKII Thailand วันนี้ เกิดขึ้นที่สวนเสียงไผ่ ทาวน์อินทาวน์ สถานที่ซึ่ง นายชยดิฐ ก่อตั้งขึ้นภายใต้ชื่อ สถาบันทิวา เพื่อมุ่งให้เป็นพื้นที่แห่งความสุข และทำประโยชน์เพื่อสังคม ดังเช่น FKII Thailand ที่มาร่วมก่อการดี เพื่อประเทศไทย เกษตรกรไทย ท่ามกลางนักบริหารและนักวิจัยภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนการก่อตั้งสถาบัน FKII Thailand อย่างคับคั่ง
อาทิ นพ.บุญเทียม เขมาภิรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ ดร.สถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ อดีตผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ดร.สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ ที่ปรึกษาและอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร นายประพันธ์ บุณยเกียรติ อดีตประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีนและอดีตอัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงปักกิ่ง นายกฤชฐา โภคาสถิตย์ อดีตประธานอนุกรรมการอีคอมเมิร์ซ นายสุปรีย์ ทองเพชร ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอีไทย) นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย นายตฤณ วุ่นกลิ่นหอม นายกสมาคมดิจิตอลเทรด ดร.สุทัศน์ ครองชนม์ นายกสมาคมไทย IoT นายจิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจไม้ ประธานผลิตภัณฑ์ไม้ Asian อุปนายกสมาคมเครื่องเรือนไทย นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด อดีตคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ นายณฐกร สุวรรณธาดา อดีตกรรมการคณะกรรมการองค์การตลาดเพื่อการเกษตร นายสุเมฆ ปัณฑรานุวงศ์ ประธานมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย นายสานิตย์ จิตต์นุพงศ์ สำนักงานโครงการข้าวรักษ์โลก เป็นต้น
Download File
สนใจสมัครสมาชิกสมาคมเพื่อรับข่าวสารและ สิทธิพิเศษในการร่วมกิจกรรมต่างๆได้ที่
Facebook: สมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม
#TMTA2024
Comments