ตลาดตะวันออกกลางเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพแล้ว ประชากรยังมีกำลังซื้อสูง และ มีบางแบรนด์ที่สามารถไปเปิดตลาดได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ ASMA Skincare เกิดจากการค้นพบโอกาสทองทางธุรกิจใน ตลาดโอมาน และ บาห์เรน 2 ประเทศแถบตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่หลายคนยังเข้าไม่ถึง
วันนี้สมาคมจะมา สัมภาษณ์ คุณวาสนา แปะสมัน (อัสมะ) มาทำความรู้จักกับเจ้าของแบรนด์ ASMA Skincare ค่ะ
TMTA : ช่วยเล่าถึงประวัติความเป็นมา จุดเริ่มต้น ของธุรกิจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ
อัสมะ : หลังจากเรียนจบ ด้านสาขาวิศวกรรมเคมีโดยตรง ก็เกิดไอเดียอยากเห็นตลาดกลุ่ม แม่บ้านมุสลิมะฮ เป็นตลาดที่มีโอกาสสูง จึงอยากสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อความสวยงาม เน้นกลุ่มนี้ ที่มีการตั้งครรภ์ ให้นมบุตร การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ส่งผลอันตรายต่อทารกในครรภ์และการให้นม เพราะแม่ลูกวัยทารก กับเรื่องความสวยงาม เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมาก ด้วยเหตุนี้แบรนด์สินค้าจึงคัดสรรสารสกัดจากธรรมชาติ มีส่วนผสมที่ฮาลาล
และลดการใช้สารเคมีอันตรายซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย โดยมี แนวคิดจาก " Be Natural Be Beautiful"
TMTA : ผลิตและจำหน่ายสินค้าอะไรบ้างคะ (ในและต่างประเทศ) อัสมะ : จุดเด่นของสินค้าเรา คือ การเลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติ และปลอดภัยต่อผิว สินค้าของเราการันตีได้ว่า ส่วนผสมทุกตัวมีฮาลาลค่ะ
ตัวอย่างสินค้าที่ผลิตภายใต้แบรนด์
1) ASMA Aole Centella Moisture Cream Natural Extract
ขายในไทย ครีมบำรุงผิวที่ผสานสารสกัดจากว่านหางจระเข้ บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ต้านการอักเสบจากสิว
2) ASMA Berries Whitening Serum ขายในไทยและส่งออก
สูตรนี้ รับผลิตให้แบรนด์สินค้าจากประเทศโอมานด้วย
3) ASMA Rose Floral Regenerating Serum ขายในไทยและส่งออก
เซรั่มบำรุงผิวสูตรพิเศษ ที่มีส่วนผสมหลักของสารสกัดจาก รกกุหลาบ และสารสกัดอื่นๆ ช่วยให้ริ้วรอยแลดูเรียบเนียนขึ้น
4) ASMA BB AURA PLUS ANTI ACNE SPF50 PA+++
บีบีเนื้อเนียนนุ่ม มาพร้อมการปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF 50 PA+++ และสารที่มีคุณสมบัติเป็น Anti acne เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิว
TMTA : ความสวย ต้องมาพร้อมกับความปลอดภัย ธุรกิจคุณเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ
อัสมะ : ความสวยและความปลอดภัย คือ คอนเซ็ปต์ของแบรนด์เราเลยค่ะ คือ "Be Natural Be Beautiful" สวยอย่างธรรมชาติ การเลือกใช้ส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ คือ สิ่งที่ปลอดภัยสำหรับผิว เพราะปัจจุบัน ผิวเสีย ได้แก่ สิว ฝ้า กระ ที่หลายๆ คน ประสบ มักเกิดขึ้นจากการใช้ครีมที่มีสารอันตรายปนเปื้อน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของผู้หญิงไทย
TMTA : มีเคล็ดลับหรือเทคนิคอย่างไรบ้างในการเปิดตลาดต่างประเทศให้ประสบความสำเร็จ และเจอปัญหาหรืออุปสรรคในเรื่องใดบ้างคะ
อัสมะ : การที่เราได้รู้จักกับกลุ่มนักธุรกิจจากกลุ่ม สมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม (TMTA) ซึ่งมีหลายท่านที่ส่งสินค้าออกต่างประเทศ และได้รับคำแนะนำอย่างมากมาย กิจกรรมอีเวนต์ ประเทศแรกที่อัสมะได้ไป คือ ประเทศโอมาน บาเรน รวมถึงเข้าร่วมการสัมมนาต่างๆซึ่งเป็นงานที่ทางสมาคมได้จัดขึ้น จนกระทั่งสินค้าไปเปิดตลาดที่บาห์เรนค่ะ
TMTA : แนวโน้มของผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ในปัจจุบันมีทิศทางอย่างไรบ้าง
อัสมะ : เราต้องมองว่าในแต่ละประเทศมีความชอบในรูปแบบ Packaging ที่ต่างกัน
TMTA : ธุรกิจนี้ใช้หลักการอิสลามในเรื่องใดบ้างและได้มีส่วนช่วยเหลือสังคมมุสลิมด้านใดบ้างคะ
อัสมะ : ธุรกิจของเรายึดหลักการอิสลาม เริ่มต้นคือ การไม่กู้ เพื่อห่างไกลจากเรื่องดอกเบี้ย มีส่วนผสมที่ฮะลาล เป็นการนำหลักการเรื่องฮะลาลและฮะรอมมาใช้ทั้งระบบ ตั้งแต่ส่วนผสม กระบวนการผลิต และการขนส่ง ที่ไม่มีสิ่งฮะรอมและสารอันตรายปนเปื้อน เรื่องอามานะฮ ความซื่อสัตย์ไม่เอาเปรียบลูกค้า ลูกค้าได้ซื้อสินค้าในราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพ แบรนด์มีเป้าหมายการบริจาคให้กับผู้หญิงที่เป็น มุอัลลัฟ แม่หม้าย และเด็กกำพร้า เป็นการคืนกำไรสู่สังคม
สนใจติดต่อสั่งซื้อได้ที่ : คุณรณฤทธิ์ แปะสมัน (อิดริส)
คุณวาสนา แปะสมัน (อัสมะ)
เบอร์ : 065 079 9910
E-mail. asma.skincare@gmail.com
FB page : Asma skincare official
IG: Asma skincare official