ในแวดวงของคนชอบกินเนื้อ ก็จะมีร้านหลากหลายมากมายที่เป็นร้านในใจของหลายคน แต่หนึ่งร้านที่ขาดไปไม่ได้ ธุรกิจค้าเนื้อที่กำลังมาแรง และประสบความสำเร็จมากๆ นั่นก็คือ "Company B" เป็นร้านที่หลายคนยกให้เป็นร้านอันดับต้นๆของประเทศที่คัดสรรเนื้อมาอย่างดีมาก ซึ่งผู้ก่อตั้งของธุรกิจค้าเนื้อนี้คงเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ “โต-วีรชน ศรัทธายิ่ง” อดีตนักร้องนำวง "ซิลลี่ฟูล" ซึ่งสูตรความสำเร็จของธุรกิจนี้เริ่มต้นจากศูนย์
หลังจากที่ โต-วีรชน ศรัทธายิ่ง ได้หันหลังให้กับวงการเพลง เขาก็มุ่งเน้นศึกษาถ่ายทอดเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ซึ่งพื้นฐานของเขาเป็นคนชอบกินเนื้อ จึงสนใจที่จะเริ่มทำธุรกิจขายเนื้อขึ้นมาด้วยการที่เป็นคนชอบกินเนื้อและเนื้อที่อร่อยสำหรับเขามันหายาก จนทำให้เขาเสาะหาเนื้อที่ดีที่สุดเพื่อมาเริ่มทำธุรกิจ
จุดเริ่มต้นของ "Company B" นั้นแน่นอนอยู่แล้วก็ต้องมาจากความรักในการกินเนื้อ "สมัยก่อน ผมชอบกินเนื้อ ชอบกินสเต็ก พอเลิกวงการ ก็จริงๆ อยากจะ set-up ทำฟาร์ม ทำอะไรที่เกี่ยวกับเนื้อเลย แต่มันเป็นโปรเจคที่ใหญ่เกินไป" บังโตได้กล่าวเอาไว้ พอได้ทำงานศาสนาก็ได้รู้จักคนมากขึ้น บังโตจึงโคจร มาเจอกับ นภศูล รามบุตร หรือ คุณตาล อดีตนายธนาคารซึ่งก็เป็น Beef Lover เช่นกัน และด้วยจังหวะที่ถูกต้อง "Company B" จึงถือกำเนิดขึ้น
ตัว "B" ของ Company "B" นั้นเป็นตัวย่อมาจากคำว่า "Barakah" ซึ่งหมายความว่า "พระพร" ในภาษาอาหรับ "เนื้อโกเบจากเมืองนอก มันแพงมาก และเป็นเนื้อที่เก็บมาด้วย พอเก็บนานเนื้อก็จะไม่สด ส่งผลให้รสชาติยังไงก็ต้องลดลงมาเยอะมาก ทีนี้ก็เลยเกิดคำถามว่า ทำยังไงถึงจะให้เราสามารถมีตังค์กินด้วยและก็ดีด้วย?" ความคิดนี้จึงเป็นที่มาของ product ตัวเอกประจำร้าน Company B ซึ่งเป็นเนื้อที่ผ่านการ "Dry Age" โดยใช้เนื้อวัวที่เลี้ยงกันในประเทศไทย
Company B นำวัวออสเตรเลียมาทั้งเป็น และมาทั้งตัว เพื่อนำมาเปลี่ยนรสชาติ ด้วยการใช้อาหารไทยขุน 4 เดือน เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี และให้กลายเป็น Signature ของ Company B ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งการตลาดที่สำคัญของ Company B
องค์กรถูกขับเคลื่อนได้เพราะพนักงาน Company B ดูแลทุกคนเหมือนคนในครอบครัว เขาเชื่อว่า ถ้าเรามอบสิ่งที่ดีให้กับคนอื่น เขาจะตอบแทนเราอย่างที่เรามอบให้เช่นกัน และที่สำคัญการมุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน ก็จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพนักงานด้วยเช่นกัน นี่แหละที่เรียกว่า องค์กรแบบสมบูรณ์แบบ
Company B เป็นธุรกิจขายเนื้อที่มาแรง และมีลูกค้าที่ชอบทานมาก จึงทำให้มีผลกำไรตอบแทนที่สูง แต่ทาง Company B ได้ส่งต่อผลกำไรเหล่านี้ให้กับสังคมในหลากหลาย เพราะ CEO แห่ง Company B
โต วีรชน ศรัทธายิ่ง เชื่อมั่นว่าการมอบสิ่งที่ดีให้กับสังคม และช่วยเหลือผู้อื่น มันคือ หน้าที่ที่เราต้องทำ
นี่คืออีกบทบาทสำคัญของ โต วีรชน ศรัทธายิ่ง อดีตร็อคสตาร์ที่เดินหน้าลุยธุรกิจแบบมุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จ และกลายเป็นร้านขายเนื้อที่ดีที่สุดร้านหนึ่งของประเทศ หากใครมองกำลังจะมีธุรกิจก็จงทำมันให้เต็มที่วางแผนให้ดี และนี่คือสูตรความสำเร็จที่เริ่มจากศูนย์ของ Company B